ฝนก็ตกลงมา ดอกไม้ก็ร่วงโรย
แค่นึกถึงแก้มที่ถูกย้อมไปด้วยสีนั้นขึ้นมา
ฉันน่ะ ดื่มด่ำแสงจันทร์ในถังไม้นั่นมาตลอดเลย
ก็มันจริงนี่หน่า
รสชาติที่โปร่งใสและจืดๆนี่เหมือนกับยามค่ำคืนเลย
ก็นั่นแหละนะ
จะหัวเราะฉันก็ไม่เป็นไร
ฉันน่ะ รอเธออยู่นะ
พอฤดูร้อนผ่านไป เมืองนี้ก็จะเงียบเหงา
แต่ว่าในที่สุดฉันก็ได้กลับมาในห้องตัวเองซักที
พอกลางคืนมาถึง ก็ต้องมองพระจันทร์ที่สวยขนาดนี้คนเดียว
ฉันพูดจริงนะ
สมัยก่อนน่ะ ฉันเคยทำน้ำตาจากอัญมณีด้วยนะ
แต่ก็นั่นแหละ จะหัวเราะก็ไม่เป็นไรหรอก
จะเสียงนั่น ก็ลืมไปแล้ว
จะความทรงจำหรือความรัก มันก็ตายไปแล้วเหมือนกัน
ได้แต่เดินไปบนหาดทรายที่ไร้ลมทะเลพัดมา เพื่อไปสู่หน้าร้อนนั้น
ฉันน่ะ อยากจะบอกลาแล้วนะ
แต่ก็เหมือนงีบหลับไปซะงั้น
แม้แต่คำพูดเดียวก็ไม่ได้พูดออกไปแบบนั้น
แล้วฉันก็ยังรอเธออยู่เหมือนเดิม
สิ่งเดียวที่ได้มา มีแค่อายุที่มากขึ้น
ได้แต่อยู่ในห้อง จนฤดูใบไม้ผลิหมุนผ่านมา
ฉันน่ะ กำลังใช้ทัพพีตักความรักในก้นหม้อที่หายไปขึ้นมาดื่มอยู่
ก็มันจริงนี่หน่า
รสชาติก็ไม่เห็นมีเลย พอดื่มเข้าไปก็ยิ่งหิวน้ำด้วย
แต่ก็นั่นแหละ จะหัวเราะฉันก็ไม่เป็นไร
ฉันน่ะ กำลังรอค่ำคืนมาถึงอยู่
อยากจะได้ยินเสียงฮัมเพลงของเธอจังเลยนะ
แต่ก็เหมือนงีบหลับไปซะงั้น
แม้แต่คำพูดเดียวก็ไม่ได้พูดออกไปแบบนั้น
แล้วฉันก็ยังรอเธออยู่เหมือนเดิม
ฉันจำดวงตาเธอไม่ได้แล้วล่ะ
จะให้วาดรูปปากเธอก็ทำไม่ได้แล้ว
แม้จะคำๆเดียว ก็ยังคงไม่ได้พูดออกไปเหมือนเดิม
แต่ฉันน่ะ ไม่ได้รอเธออีกแล้วนะ
ฉันไม่รู้แล้วว่าจมูกเธอรูปร่างยังไง
แล้วก็ไม่นึกถึงแก้มเธอแล้วด้วย
แม้แต่คำบอกลา ฉันก็ไม่ได้พูดออกไป
แล้วเธอก็กลายเป็นยามค่ำคืนไป
(ก็มันจริงนี่หน่า
รสชาติของหน้าร้อนที่โปร่งใสนี่เหมือนกับยามค่ำคืนเลย)