[Chorus]
พวกเขาถามว่าทำไมฉันถึงใช้เวลากลับบ้านนาน
ฉันรู้ว่าฉันอยู่ใกล้แค่นี้ แต่ฉันเลือกเส้นทางที่ไกลกว่า
ไม่มีเสียงกรีดร้อง หรือหมดความรัก
ไม่มีการต่อสู้เพื่อคุมสถานการณ์ถ้าฉันเลือกเส้นทางที่ไกลกว่า
[Verse]
ฉันจะใช้ทางที่ไกลกว่าเพื่อกลับบ้าน
เพราะการเดินผ่านเข้าประตูนั้นไม่ง่ายเลย
ฉันไม่เดินเร็วด้วยเหตุผลบางอย่าง
ฉันไม่สนใจหรอกถ้ามีใครสักคนมองเห็นฉัน
ฉันเคยมีความสุขดีจนกระทั่งเรื่องที่แย่นี้เกิดขึ้น
ทุกคนหัวเราะกันเพราะไม่มีใครเข้าใจ
ฉันได้รับความรุนแรงที่โรงเรียนและความรู้สึกนั้นยังคงอยู่กับฉัน
ฉันไม่เคยได้รับอะไรที่ฉันขอเลย
เวลานี้ได้เริ่มขึ้นแล้วเมื่อฉันเปิดประตูออกมา
ของเกือบครึ่งกระจัดกระจายอยู่บนพื้น
ใช่ เริ่มขึ้นแล้วสิ เหมือนกลับมาอยู่ในโซนพายุลูกเห็บเลย
แม่ที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ บอกกับฉันว่าเธอรับไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
[Bridge]
บอกว่า “ฉันจะไปแล้ว” แต่แม่กำลังโกหก
ฉันไม่เห็นแม่เตรียมกระเป๋าไว้เลย ฉันกำลังพยายาม
แม่เห็นอะไรในตัวเขา และความเป็นปีศาจของเขา
ถ้าฉันเรียกตำรวจ แม่ก็คงเก็บความลับไม่ได้อีกต่อไป
[Chorus]
พวกเขาถามว่าทำไมฉันถึงใช้เวลานานที่จะกลับบ้าน
ฉันรู้ว่าฉันอยู่ใกล้แค่นี้ แต่ฉันเลือกเส้นทางที่ไกลกว่า
ไม่มีเสียงกรีดร้อง หรือหมดความรัก
ไม่มีการต่อสู้เพื่อคุมสถานการณ์ถ้าฉันเลือกเส้นทางที่ไกลกว่า
[Interlude]
แม่ ฉันเหนื่อยกับการกลับบ้านมาเห็นแม่ร้องไห้อยู่ทุกวัน
ไปกัน หนีกันเถอะ
แม่เห็นอะไรในตัวเขา
เขาไม่สำคัญอะไรเลย เขาก็แค่เศษขยะ
นี่แม่จริงจังใช่ไหม
[Verse]
นี่เป็นวันที่เลวร้ายเลยทีเดียว
ฝนตกจนกระเป๋าของฉันเปียกหมดเลย
ดีนะที่ฉันไม่ได้สนใจการบ้านพวกนั้น
คุณครูต้องรีบไปและต้องไปทำธุระส่วนตัวก่อน
ชีวิตที่บ้านของฉันวุ่นวายมาก
รู้สึกเหมือนว่าฉันถูกทดสอบ
พ่อแม่ของฉันไม่เคยหยุดบ่นเลย
ฉันรู้ว่าชีวิตนี้ช่างยากเหลือเกินแต่ก็แค่เรียนรู้ที่จะรับไว้
ถ้าฉันไปแล้วจะมีใครสังเกตเห็นไหม
ฉันจะเอาแมวไปด้วย และจะไม่ไปเส้นทางที่พวกเขาเลือกไว้
ฉันจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง
นอนในถุงนอนบนม้านั่งเก่า ๆ ในสวน
[Chorus]
พวกเขาถามว่าทำไมฉันถึงใช้เวลานานที่จะกลับบ้าน
ฉันรู้ว่าฉันอยู่ใกล้แค่นี้ (ฉันอยู่ใกล้นิดเดียว) แต่ฉันเลือกทางที่ไกลกว่า (ฉันเลือกทางที่ไกล)
ไม่มีเสียงกรีดร้อง หรือหมดความรัก (หมดความรัก)
ไม่มีการต่อสู้เพื่อคุมสถานการณ์ถ้าฉันเลือกเส้นทางที่ไกลกว่า (ฉันโดดเดี่ยวเหลือเกิน ช่างเป็นการเดินทางกลับบ้านที่ยาวนาน)