ถึงเธอจะใจดีกับคนอื่นๆ แต่ยังไงก็ไม่เข้าใจหัวใจฉันหรอก
พอได้สาปแช่งคนอื่นมันก็รู้สึกสบายใจ เพราะงั้นเลยเขียนเพลงนี้ขึ้นมาไง
การที่ได้ลงเป็นข่าวเช้าในทีวีน่ะเป็นความฝันของฉันเลยนะ
เพื่อการนั้น ก็เลยเอามีดปังตอขึ้นมาลับจนคมกริบเลย
เสียงกระจกแตก มีกระดาษอะไรบางอย่างถูกฉีก
พระอาทิตย์ตกดินหลังจากร่ำลากันนี่สวยจัง
ถ้าเป็นเธอคงเข้าใจสินะ
เสียงร้องของนกกาที่บินไปสู่ท้องฟ้ายามเย็นนั้น
จะเปลี่ยนความโดดเดี่ยวนี้ให้เป็นเสียงบรรเลง
ภาพในอดีตที่ฝังลึกในใจก็ถูกสาดส่องไปในแสงยามเย็น
พอยืนมองหมู่เมฆที่เหมือนถูกดวงอาทิตย์ย่างจนไหม้เกรียม
คำว่าลาก่อนก็ไหลออกมาจากปากฉัน
อยากจะยอมรับให้ได้ อยากจะรักให้ได้
นี่มันเป็นความฝันของแกเองไม่ใช่รึไง
ถึงจะไม่มีอะไรเลยก็ช่วยเป็นจริงขึ้นมาเถอะ เร็วเข้า ทำให้ฉันพอใจซักที
ถึงโลกใบนี้จะใจดีกับคนอื่นๆ แต่ยังไงก็ไม่มีทางเข้าใจความอิจฉาของฉันแน่
แล้วตอนนี้ฉันก็ยังหาโอกาสที่จะได้ต่อยระบายใส่ใครซักคนอยู่
จะทำลายแสงไฟตามถนนในเมืองด้วยขวดเบียร์ หรือจะเสียงโยนกีต้าร์ที่หักงอ
ความรู้สึกเสียใจภายหลังที่ไม่ย้อนคืนมา ทั้งหมดนั่นช่างสวยงามจริงๆ
เรื่องแบบนั้นน่ะ ถ้าเป็นฉันก็คงเข้าใจแท้ๆ
ถูกสายฝนแห่งถ้อยคำตีลงมา
ยังคงเสียดายฤดูใบผลิ ทั้งๆที่ฤดูหนาวกำลังโปรยปรายลงมา
จากเบื้องหลังของหุบเขาในฤดูใบไม้ผลิ หมอกควันก็พัดมาอีกครั้ง
แล้วสายลมฤดูร้อนก็พัดผ่านแก้มฉันไป
ถึงเธอจะใจดีกับคนอื่นๆ แต่ยังไงก็ไม่มีทางเข้าใจความโดดเดี่ยวนี่หรอก
ถึงจะไม่อยากตาย แต่ก็มีชีวิตต่อไปไม่ไหวแล้ว
เพราะงั้นถึงเขียนเพลงนี้ขึ้นมาไงล่ะ
เพราะคิดว่าจะการละเมิด ความสิ้นหวัง หรือการถูกเกลียดชัง ทั้งหมดต่างก็พุ่งความสนใจมาที่ฉัน
ก็เลยเขียนบทเพลงที่จะทำให้คนอื่นเจ็บปวดขึ้นมา
ก็เลยเขียนเพลงที่ไร้เนื้อหาแบบนี้ขึ้นมา
อยากจะดื่มด่ำกับคำพูดของเธอ
มันไม่มีภาชนะอะไรมารองรับทั้งนั้น แต่จะรับไว้ด้วยมือคู่นี้
ในระหว่างที่รอเวลานั้นมาถึง
คอก็ชุ่มชื่นขึ้นมาไม่ทันรู้ตัว
เสียงร้องของนกกาที่บินไปสู่ท้องฟ้ายามเย็นนั้น
จะเปลี่ยนความโดดเดี่ยวนี้เป็นบทเพลงได้
ลาก่อนนะ จากท้องฟ้ายามเย็นถึงเธอ
ฉันน่ะ ตอนนี้กำลังรอให้ค่ำคืนมาถึงอยู่
"เจอกันพรุ่งนี้นะ" เผลอหลุดปากพูดไปซะแล้วสิ