[Chorus: Rihanna]
เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น แล้วมองดูฉันโดนเผาไหม้อย่างนั้นหรือ
ไม่เป็นไรหรอก เพราะฉันชอบที่จะเจ็บแบบนี้
เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น แล้วฟังเสียงร้องไห้ของฉันแบบนั้นหรือ
ไม่เป็นไรหรอก เพราะฉันก็ชอบเวลาคุณโกหก
ฉันชอบเวลาคุณโกหก
[Verse 1: Eminem]
ฉันบอกคุณไม่ได้ว่าแท้จริงแล้วคืออะไร ฉันได้แค่บอกคุณว่ารู้สึกอย่างไร
และตอนนี้ฉันรู้สึกราวกับว่าถูกมีดแหลมคมทิ่มในหลอดลมของฉัน
ฉันหายใจไม่ออก แต่ฉันก็ยังสู้ ในตอนที่ฉันยังสู้ไหว
ตราบเท่าที่รู้สึกว่าสิ่งที่ผิดเป็นเรื่องถูกต้อง เหมือนฉันได้โบยบินออกไป
จมปลักอยู่กับความรักของเธอและเมามายจากความเกลียดชัง
เหมือนฉันเสพติดและเมื่อยิ่งรักเธอมากขึ้นยิ่งทำให้ทรมานรู้สึกราวกับหายใจไม่ออก
และก่อนที่ฉันกำลังจะขาดใจ เธอก็ทำให้ฉันฟื้นคืนสติ
เธอเกลียดฉันมากเลย และฉันชอบในสิ่งนั้น — “เดี๋ยวก่อน
คุณจะไปไหน” — “ฉันกำลังไปจากคุณ” — “ไม่ ทำแบบนั้นไม่ได้นะ
กลับมาเดี๋ยวนี้” — เราวิ่งถอยหลังกลับมา เราเริ่มกันอีกแล้ว
นั้นเป็นเรื่องบ้ามาก เพราะเวลาทุกอย่างกำลังจะดี กำลังเป็นไปได้อย่างสวยงาม
ฉันเป็นซูเปอร์แมนที่อยู่ในสถานะดีพร้อมประสบความสำเร็จส่วนเธอเป็น Lois Lane
แต่เวลาที่ทุกอย่างแย่ ก็จะแย่มากเหลือเกินจนฉันรู้สึกอับอาย
ฉันเลยตะคอกสวนกลับไปว่า “คนนั้นคือใคร” ฉันไม่รู้จักชื่อของเขาเลย
ฉันวางมือบนตัวเธอ ฉันจะไม่ยอมโน้มตัวลงมาต่ำอีกครั้ง
ฉันคิดว่าฉันคงไม่รู้จุดแข็งของตัวฉันเอง
[Chorus: Rihanna]
เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น แล้วมองดูฉันโดนเผาไหม้อย่างนั้นหรือ
ไม่เป็นไรหรอก เพราะฉันชอบที่จะเจ็บแบบนี้
เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น แล้วฟังเสียงร้องไห้ของฉันแบบนั้นหรือ
ไม่เป็นไรหรอก เพราะฉันก็ชอบเวลาคุณโกหก
ฉันชอบเวลาคุณโกหก
ฉันชอบเวลาคุณโกหก
[Verse 2: Eminem]
คุณเคยรักใครบางคนมากจนแทบจะหายใจไม่ออกเลย ในเวลาที่คุณอยู่กับเขาไหม
พวกคุณพบกันและก็ไม่มีใครรู้เลยว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา
มีความรู้สึกอบอุ่นอย่างแผ่วเบา ใช่ และความเยือกเย็นที่พวกเขาเคยได้รับ
แต่ตอนนี้คุณเบื่อหน่ายเหลือเกินเวลามองไปที่พวกเขา
คุณเคยสาบานว่าไม่ทำร้ายพวกเขา ไม่เคยทำอะไรให้พวกเขาต้องเจ็บปวด
แต่ตอนนี้พวกคุณเผชิญหน้ากัน
เมื่อคุณพูดถ้อยคำเหล่านนั้นออกมาด้วยความโกรธ
คุณผลักและต่างก็ดึงผมซึ่งกันและกัน ข่วน จิกเล็บ กัด พวกเขา
เหวี่ยงขว้างปา และทิ่มแทงตอกตรึงด้วยของแหลม
แล้วหายไปในห้วงเวลา เมื่อคุณอยู่กับพวกเขา
นั่นคือความโกรธแค้นอย่างรุนแรงที่เข้ามาควบคุมพวกคุณทั้งคู่
ดังนั้นพวกเขาบอกว่าสิ่งดีที่สุดแล้วควรจะเดินแยกทางกันไป
คาดว่าพวกเขาคงไม่รู้จักคุณดีพอ
เพราะวันนี้ก็คือเมื่อวานเป็นวันวานที่จบสิ้นไปแล้ว
เป็นวันที่แตกต่างไป ฟังดูแล้วเหมือนแผ่นเสียงชำรุดที่เล่นเพลงซ้ำไปมา
แต่คุณสัญญากับเธอแล้วว่าครั้งต่อไปจะควบคุมอารมณ์ของตัวเอง
คุณจะไม่ได้รับโอกาสอีกแล้ว ชีวิตไม่ใช่เครื่องเกมส์ Nintendo
แต่คุณก็โกหกอีกครั้ง
แต่ตอนนี้คุณได้แต่มองเธอจากไปนอกหน้าต่างนั้น
พอจะเดาได้ว่าทำไมถึงเรียกว่าหน้าต่างแห่งความเจ็บปวดเพราะมองเห็นเรื่องราวผ่านกระจกใสนั้น
[Chorus: Rihanna]
เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น แล้วมองดูฉันโดนเผาไหม้อย่างนั้นหรือ
ไม่เป็นไรหรอก เพราะฉันชอบที่จะเจ็บแบบนี้
เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น แล้วฟังเสียงร้องไห้ของฉันแบบนั้นหรือ
ไม่เป็นไรหรอก เพราะฉันก็ชอบเวลาคุณโกหก
ฉันชอบเวลาคุณโกหก
ฉันชอบเวลาคุณโกหก
[Verse 3: Eminem]
ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าสิ่งที่เคยพูดกัน เคยปฏิบัติต่อกัน ไม่ใช่สิ่งที่เราตั้งใจทำ
แล้วเราก็วนกลับมาสู่รูปแบบเดิม การกระทำแบบเดิม
แต่อารมณ์ของคุณช่างรุนแรงซึ่งเหมือนกับอารมณ์ของฉัน
เราช่างเหมือนกันเหลือเกิน
สำหรับในเรื่องของความรักคุณก็เหมือนเป็นคนตาบอด ที่รัก ได้โปรด
กลับมาเถอะ นั่นไม่ใช่เพราะคุณ ที่รัก เป็นเพราะฉันเอง
บางทีความสัมพันธ์ของเราอาจจะไม่ได้บ้าคลั่งอย่างที่ดูเหมือนจะเป็น
บางทีนั่นอาจเกินขึ้นเมื่อพายุทอร์นาโดมาปะทะภูเขาไฟอันร้อนแรง
แต่เท่าที่ฉันรู้คือฉันรักคุณมากเหลือเกิน มากเกินกว่าที่จะเดินจากไป
เข้ามาข้างในเถอะ ยกกระเป๋าของคุณให้พ้นจากทางเดินก่อน
คุณไม่ได้ยินความจริงใจในน้ำเสียงเวลาฉันพูดหรือ
ที่บอกกับคุณว่าเป็นความผิดฉันเอง มองที่ดวงตาฉัน
ครั้งหน้าถ้าฉันโมโหจนขาดสติ ฉันจะเอากำปั้นชกไปที่กำแพง
ครั้งต่อไปหรือ ไม่มีครั้งต่อไปแล้ว
ฉันขอโทษ ถึงแม้ฉันจะรู้ว่านั้นคือคำโกหก
ฉันเบื่อหน่ายกับเกมส์เหล่านี้ ฉันต้องการให้เธอกลับมา ฉันรู้ว่าฉันคือจอมโกหก
แต่ถ้าเธอพยายามจะเดินไปจากฉันอีก ฉันจะมัดเธอไว้
กับเตียง แล้วก็เผาบ้านเลย ฉันจะ
[Chorus: Rihanna]
เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น แล้วมองดูฉันโดนเผาไหม้อย่างนั้นหรือ
ไม่เป็นไรหรอก เพราะฉันชอบที่จะเจ็บแบบนี้
เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น แล้วฟังเสียงร้องไห้ของฉันแบบนั้นหรือ
ไม่เป็นไรหรอก เพราะฉันก็ชอบเวลาคุณโกหก
ฉันชอบเวลาคุณโกหก
ฉันชอบเวลาคุณโกหก