It's My Life [Thai translation]

[Verse 1]

นี่ ไม่ใช่เพลงสำหรับคนอกหัก

ไม่มีเสียงภาวนาสำหรับคนที่สูญสิ้นศรัทธาไป

ฉันจะไม่ใช่แค่คนธรรมดาคนหนึ่ง

คุณต้องได้ยินเสียงของฉันเมื่อฉันตะโกนออกไปดังๆ

[Chorus]

นี่มันชีวิตของฉันจะทำอะไรก็ต้องตอนนี้แหละเพราะคงไม่มีโอกาสอีกในอนาคต

ฉันไม่ได้มีชีวิตเป็นอมตะ

ฉันแค่อยากจะใช้ชีวิตขณะที่ฉันยังมีลมหายใจ

(มันคือชีวิตของฉัน)ใจของฉันเปิดกว้างไม่มีที่สิ้นสุด

อย่างที่แฟรงกี้พูดว่า “ฉันกำหนดหนทางของฉันเอง”

ฉันแค่อยากจะใช้ชีวิตขณะที่ฉันยังมีลมหายใจ

นี่มันชีวิตของฉัน

[Verse 2]

สำหรับผู้ที่ยึดมั่นอุดมการณ์และไม่หวั่นที่จะต้องต่อสู้

สำหรับทอมมี่และจีน่า ผู้ที่ไม่เคยยอมแพ้

พรุ่งนี้อาจยากที่จะทำอะไรได้ เราจะผิดพลาดไม่ได้อีกแล้ว

อย่าพึ่งแต่โชคชะตาเลย เราต้องสร้างโอกาสให้ตัวเอง

[Chorus]

นี่มันชีวิตของฉันจะทำอะไรก็ต้องตอนนี้แหละเพราะคงไม่มีโอกาสอีกในอนาคต

ฉันไม่ได้มีชีวิตเป็นอมตะ

ฉันแค่อยากจะใช้ชีวิตขณะที่ฉันยังมีลมหายใจ

(มันคือชีวิตของฉัน)ใจของฉันเปิดกว้างไม่มีที่สิ้นสุด

อย่างที่แฟรงกี้พูดว่า “ฉันกำหนดหนทางของฉันเอง”

ฉันแค่อยากจะใช้ชีวิตขณะที่ฉันยังมีลมหายใจ

นี่มันชีวิตของฉัน

[Bridge]

ต้องพร้อมยืนหยัดและมั่นใจเมื่อมีอุปสรรคที่จะทำให้เราต้องต่อสู้

อย่าอ่อนข้อ อย่าท้อถอย ที่รัก อย่ายอมแพ้ 

[Chorus]

นี่มันชีวิตของฉัน ทำอะไรก็ต้องตอนนี้แหละเพราะคงไม่มีโอกาสอีกในอนาคต

ฉันไม่ได้มีชีวิตเป็นอมตะ

ฉันแค่อยากจะใช้ชีวิตขณะที่ฉันยังมีลมหายใจ

(มันคือชีวิตของฉัน) ใจของฉันเปิดกว้างไม่มีที่สิ้นสุด

อย่างที่แฟรงกี้พูดว่า “ฉันกำหนดหนทางของฉันเอง”

ฉันแค่อยากจะใช้ชีวิตขณะที่ฉันยังมีลมหายใจ

นี่มันชีวิตของฉัน ทำอะไรก็ต้องตอนนี้แหละเพราะคงไม่มีโอกาสอีกในอนาคต

ฉันไม่ได้มีชีวิตเป็นอมตะ

ฉันแค่อยากจะใช้ชีวิตขณะที่ฉันยังมีลมหายใจ

(มันคือชีวิตของฉัน) ใจของฉันเปิดกว้างไม่มีที่สิ้นสุด

อย่างที่แฟรงกี้พูดว่า “ฉันกำหนดหนทางของฉันเอง”

ฉันแค่อยากจะใช้ชีวิตขณะที่ฉันยังมีลมหายใจ

นี่มันชีวิตของฉัน