Hourglass [Thai translation]

[Verse 1]

ถ้าคุณสามารถเห็นวินาทีชีวิตของคุณผ่านนาฬิกาทราย

ถ้าคุณสามารถเห็นนาทีชีวิตที่เหลืออยู่ของคุณ

คุณจะวิ่งและพยายาม

ที่จะเอาชนะสิ่งนั้นไหม

ถ้าคุณสามารถเห็นอนาคตผ่านรูปถ่าย

ถ้าคุณสามารถเห็นแสงสว่างนำทางที่คุณปรารถนาจะมี

คุณจะเข้มแข็งและดำเนินชีวิตต่อไป

กับสิ่งที่คุณมีอยู่หรือไม่

[Pre-Chorus]

ทำไมเราถึงเสียเวลาไปกับสิ่งที่เปล่าประโยชน์

แต่ควรที่จะไล่ตามหาในสิ่งที่เติมเต็มให้กับชีวิต

[Chorus]

ถ้าเรากำลังมีลมหายใจเฮือกสุดท้าย

ฉันไม่อยากจะรอเพื่อที่จะบอกลา

ถ้าไม่มีวันพรุ่งนี้อีกแล้ว

คุณควรจะทำให้คืนนี้เป็นคืนที่ยาวนานและมีค่ามากที่สุด

ถ้าเรากำลังยืนอยู่ในจุดที่กำแพงกำลังถล่มลงมา

ถ้าเรามาถึงจุดสุดท้ายของชีวิต

และถ้าเรายังมีชีวิตอยู่ถึงวันพรุ่งนี้

เราจะใช้ชีวิตให้ดีกว่าที่เราได้ทำลงไปเมื่อคืนที่ผ่านมา

[Verse 2]

ถ้าคุณตกอยู่ในภาวะที่แย่ที่สุด คุณจะยืนหยัดลุกขึ้นสู้ไหม

ถ้าคุณอยู่ในจุดที่ถลำลึกลงไป คุณจะจับมือฉันไหม

คุณจะโกหกและยอมเสียศักดิ์ศรีไหม

เพื่อที่จะมีชีวิตอีกครั้ง

ถ้าคุณสามารถตื่นขึ้นมาและเห็นตัวตนของตัวเอง

คุณยังคงจะหาหนทางที่จะตำหนิผู้อื่นอยู่อีกหรือเปล่า

คุณจะเปลี่ยนตัวเองเพียงชั่วข้ามวันหรือไม่

และคุณจะร้องขอความช่วยเหลือหรือเปล่า

[Pre-Chorus]

ทำไมเราถึงเสียเวลาไปกับสิ่งที่เปล่าประโยชน์

แต่ควรที่จะไล่ตามหาในสิ่งที่เติมเต็มให้กับชีวิต

[Chorus]

ถ้าเรากำลังมีลมหายใจเฮือกสุดท้าย

ฉันไม่อยากจะรอเพื่อที่จะบอกลา

ถ้าไม่มีวันพรุ่งนี้อีกแล้ว

คุณควรจะทำให้คืนนี้เป็นคืนที่ยาวนานและมีค่ามากที่สุด

ถ้าเรากำลังยืนอยู่ในจุดที่กำแพงกำลังถล่มลงมา

ถ้าเรามาถึงจุดสุดท้ายของชีวิต

และถ้าเรายังมีชีวิตอยู่ถึงวันพรุ่งนี้

เราจะใช้ชีวิตให้ดีกว่าที่เราได้ทำลงไปเมื่อคืนที่ผ่านมา

[Bridge]

เพราะว่าคุณไม่ได้โดดเดี่ยวเพียงลำพัง ไม่ คุณไม่ได้โดดเดี่ยว

เราต่างกำลังใช้ชีวิตโดยสูญเปล่า

แต่ยังไม่สายที่เราจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง

แต่เรายังมีวันนี้

[Chorus]

ถ้าเรากำลังมีลมหายใจเฮือกสุดท้าย

ฉันไม่อยากจะรอเพื่อที่จะบอกลา

ถ้าไม่มีวันพรุ่งนี้อีกแล้ว

คุณควรจะทำให้คืนนี้เป็นคืนที่ยาวนานและมีค่ามากที่สุด

ถ้าเรากำลังยืนอยู่ในจุดที่กำแพงกำลังถล่มลงมา

ถ้าเรามาถึงจุดสุดท้ายของชีวิต

และถ้าเรายังมีชีวิตอยู่ถึงวันพรุ่งนี้

เราจะใช้ชีวิตให้ดีกว่าที่เราได้ทำลงไปเมื่อคืนที่ผ่านมา