ผมได้พบเห็นดอกไม้หนึ่งดอก
ในวันหนึ่ง บนท้องถนน
ปรากฏว่ากลีบเธอนั้น เหี่ยวเฉาและขาดรุ่งริ่ง
แม้กระทั้งสีก็ซีดขาว และดอกก็กำลังชุกชมในลมหายใจเฮือกสุดท้าย
ผมนำบุษบาดอกนั้นกลับสู่สวน เพื่อจะทะนุถนอมดูแลรักษา
ดอกไม้ ซึ่งกลีบยังเคลิ้มหลับไหลอยู่
ที่ผมรักษาด้วยจิตและวิญญาณของผมอยู่ในปัจจุบันนี้
ได้รับสีสัน ที่เธอได้สูญเสียไป กลับคืนมาเช่นเดิม
เพราะเธอได้พบใครคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้คอยดูแลรดน้ำ
ผมมอบความรักแก่เธอวันละเล็กละน้อย
ผมทะนุถนอมเธอใว้ในห้วงจิตวิญญาณของผม
และในช่วงฤดูหนาว ก็มอบความความอบอุ่นให้แก่เธอ
เพื่อปกป้องคุมครอง มิให้เธอได้รับภัยอันตรายใดๆทั้งสิ้น
วันนี้ ผมเป็นผู้ครอบครองดอกไม้ดอกนี้
และผมขอสัญญาว่า จะทะนุถนอมเธอ แต่นี้เป็นต้นไป
เพื่อจะมิให้ใครมาขโมยสีของเธอไป
เพื่อจะมิให้เธอพรากจากผมไปอย่างเด็ดขาด
ความผูกพันหลายประการ มีแหล่งที่มา จากดอกไม้ดอกนี้
ความรักที่กำเนิดขึ้นมาในวันหนึ่ง แต่แล้วก็สูญเสียไป
และแสงสว่างจากพระอาทิตย์ ทำให้ความมืดมนหายลับไป
และความมืดมน ก็จะทำให้การแตกแยกและความทรงจำลบเลือนหายไป
ผมมอบความรักแก่เธอวันละเล็กละน้อย
ผมทะนุถนอมเธอใว้ในห้วงจิตวิญญาณของผม
และในช่วงฤดูหนาว ก็มอบความความอบอุ่นให้แก่เธอ
เพื่อปกป้องคุมครอง มิให้เธอได้รับภัยอันตรายใดๆทั้งสิ้น
วันนี้ผมเป็นผู้ครอบครองดอกไม้ดอกนี้
และผมขอสัญญาว่า จะทะนุถนอมเธอ แต่นี้เป็นต้นไป
เพื่อจะมิให้ใครมาขโมยสีของเธอไป
เพื่อจะมิให้เธอพรากจากผมไปอย่างเด็ดขาด
(เพื่อจะมิให้เธอพรากจากผมไปอย่างเด็ดขาด)
[ซ้ำหลายครั้งจนกว่าจะจบ...]
ผมจะเชิดชูเธอไว้ด้วยความเอ็นดูวันละเล็กละน้อย (เพื่อจะมิให้เธอพรากจากผมไปอย่างเด็ดขาด)
และในช่วงฤดูหนาว สวนดอกไม้ของผมก็จะเต็มไปด้วยสีสันหลากตา (เพื่อจะมิให้เธอพรากจากผมไปอย่างเด็ดขาด)
เมื่อผมมองเธอครั้งใด หัวใจผมเต็มเปี่ยมด้วยความเสน่หา พาให้จิตใจล่องลอย
Ave Maria, Puerto Rico!
เอาเลย1 Sergio!
1. คงเป็นคำลงท้าย เพื่อยุยงให้นักดนตรีบรรเลงต่อไปเพราะๆและดังๆ จนค่อยๆจบลงในที่สุด...