BRAIN [Thai translation]

ยังคงวนเวียนอยู่ในความคิด

ชื่อที่ยังคงสลักไว้

แสงไฟส่องสว่างท่ามกลางเมืองหรู

แต่ไม่อาจปลอบโยนหัวใจได้

ไม่อาจลืมเลือนได้

ความเปล่าเปลี่ยวในใจยังคงเดินทางต่อ

ค่ำคืนที่ความว่างเปล่ากัดกินพื้นที่ในใจ

และตัวฉันที่ฟุบหลับไป

เสียงที่เรียกหาฉันดังก้อง

ตกอยู่ในภวังค์แห่งคลื่นความเหงา

ค่อยๆด่ำดิ่งลึกลงไปในความทรงจำ

ยังคงวนเวียนอยู่ในสมอง

ใต้โคลนตมที่ดึงดูดความคิดร้องเรียกหาเธอ

บาดแผลที่ยิ่งบาดลึก

คงไม่มีวันหายสนิทอีกต่อไป

ยิ่งก้าวเข้าไปใกล้มากเท่าไหร่

ภาพลงตาที่สลายจางไป

ใต้ความทรงจำที่ยังคงต้องการเธอ

ไม่อาจปล่อยวางและยังคงวนเวียนอยู่ในนี้

นิจนิรันดร์กาล

ฝังลึกเอาไว้ในความทรงจำ

ช่วยเบ่งบานอย่างงดงามอีกสักครั้ง

ในความมืดมิดที่มีเธอเป็นแสงสว่าง

ค่อนๆเลือนลางจางหายไป

สลักอยู่กลางใจตลอดกาล

แม้จะแสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจ

แต่ความทรงจำที่ฝังลึกอยู่ภายใน

สุดท้ายก็เกาะติดตัวฉันตลอดเวลา

เหลือทิ้งไว้เพียงรอยบาดแผล

เดินอยู่ลำพังท่ามกลางความมืดมิด

ช่างเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ทรมาน

ความเศร้าที่เกาะกุมใจ

เป็นดั่งคนหลงทางในทุกวัน

เสียงที่เรียกหาฉันดังก้อง

ตกอยู่ในภวังค์แห่งคลื่นความเหงา

ค่อยๆด่ำดิ่งลึกลงไปในความทรงจำ

ยังคงวนเวียนอยู่ในสมอง

ใต้โคลนตมที่ดึงดูดความคิดร้องเรียกหาเธอ

บาดแผลที่ยิ่งบาดลึก

คงไม่มีวันหายสนิทอีกต่อไป

ยิ่งก้าวเข้าไปใกล้มากเท่าไหร่

ภาพลงตาที่สลายจางไป

ใต้ความทรงจำที่ยังคงต้องการเธอ

ไม่อาจปล่อยวางและยังคงวนเวียนอยู่ในนี้

ใต้ไฟที่กำลังมอดดับลง

กลืนกินความทรงจำที่แผดเผาตัวฉัน

แม้จะไร้ซึ่งหยดน้ำตา

ความทรงจำระหว่างเธอที่ฟื้นคืนอีกครั้ง

ความเจ็บปวดที่แสนร้าวราน

มันยังคงทำร้ายความรู้สึกอยู่เรื่อยมา

ยังคงวนเวียนอยู่ในสมอง

ความทรงจำที่ร้องเรียกฉัน

เสียงที่บาดหัวใจนับครั้งไม่ถ้วน

ไร้สติราวกับคนบ้า

ยิ่งก้าวเข้าไปใกล้มากเท่าไหร่

ภาพลงตาที่สลายจางไป

ใต้ความทรงจำที่ยังคงต้องการเธอ

ไม่อาจปล่อยวางและยังคงวนเวียนอยู่ในนี้

สลักอยู่กลางใจตลอดกาล

ช่วยเบ่งบานอย่างงดงามอีกสักครั้ง

ในความมืดมิดที่มีเธอเป็นแสงสว่าง

ค่อนๆเลือนลางจางหายไป

สลักอยู่กลางใจตลอดกาล