ประการแรก
ฉันจะพูดสิ่งที่อยู่ภายในหัวของฉันทั้งหมดออกมา
ด้านในของฉันนั้นเดือดดาล (หมายถึงอารมณ์) ฉันเหนื่อยกับหนทางความเป็นไปของสิ่งต่างๆ
ความเป็นไปของสิ่งต่างๆ
ประการที่สอง
คุณเคยบอกฉันไม่ใช่เหรอ ว่าฉันน่ะจะไปได้ไกลแค่ไหน
ฉันเป็นคนเดียวที่ล่องเรือ ล่องเรืออยู่ในทะเลของฉัน (ฉันเป็นคนควบคุมทิศทางชีวิตของฉันเอง)
อยู่ในทะเลของฉัน
จิตใจของฉันนั้นแหลกสลายตั้งแต่เด็ก
ยอมยกกระทั่งจิตวิญญาณให้คนอื่น
ฉันร่ายบทกลอนให้ใครบางคน
คนที่มองฉัน เข้ามาหาฉัน เข้าใจฉัน
ร่ำร้องจากความเจ็บปวดในหัวใจ
ฉันกลั่นกรองข้อความที่อยู่ในสายเลือด
ได้ยินบทเรียนที่เคยได้รับมา จากสมอง
มันทำให้ฉันเห็นความสวยงามผ่านทาง
ความเจ็บปวด
คุณทำให้ คุณทำให้ฉันกลายเป็นผู้ศรัทธา ผู้ศรัทธา
ความเจ็บปวด
คุณทำให้ฉันแหลกสลาย แล้วสร้างฉันขึ้นมาใหม่ ผู้ศรัทธา ผู้ศรัทธา
ความเจ็บปวด
ฉันคนท้าใหญ่โอ้ปล่อยให้พวกเขาฝน
โชคชะตา ความรัก และพระเจ้าของฉันล้วนมาจาก
ความเจ็บปวด
คุณทำให้ คุณทำให้ฉันกลายเป็นผู้ศรัทธา ผู้ศรัทธา
ประการที่สาม
ฉันจะส่งคำภาวนาไปยังเบื้องบน
ความเกลียดชังที่คุณเคยได้ยิน มันได้เปลี่ยนจิตวิญญาณของคุณไปเป็นนกพิราบส่งสาร
ส่งสารขึ้นไปยังเบื้องบน
ฉันกำลังหลงทางอยู่กลางฝูงชน
จนความคิดของฉันล่องลอยขึ้นไป
ก่อนที่จะร่วงโรยลงเหมือนผงธุลี
หวังว่าความรู้สึกของฉัน จะจมดิ่งลงไป
แต่ว่ามันไม่เคยเป็น ไม่เคยที่จะไหลดิ่งลงไป
มันถูกขวางกั้นไว้
จนมันแตกสลาย และร่วงลงมา
ร่วงลงมาหมือนกับ
ความเจ็บปวด
คุณทำให้ คุณทำให้ฉันกลายเป็นผู้ศรัทธา ผู้ศรัทธา
ความเจ็บปวด
คุณทำให้ฉันแหลกสลาย แล้วสร้างฉันขึ้นมาใหม่ ผู้ศรัทธา ผู้ศรัทธา
ความเจ็บปวด
ฉันคนท้าใหญ่โอ้ปล่อยให้พวกเขาฝน
โชคชะตา ความรัก และพระเจ้าของฉันล้วนมาจาก
ความเจ็บปวด
คุณทำให้ คุณทำให้ฉันกลายเป็นผู้ศรัทธา ผู้ศรัทธา
ประการสุดท้าย
คุณเป็นเหมือนความเปล่งประกายของเปลวไฟ
คุณเป็นเหมือนใบหน้าแห่งอนาคต เหมือนดั่งสายเลือดของฉัน
สายเลือดของฉัน
แต่ว่ามันไม่เคยเป็น ไม่เคยที่จะไหลดิ่งลงไป
มันถูกขวางกั้นไว้
จนมันแตกสลาย และร่วงลงมา
ร่วงลงมาหมือนกับ
ความเจ็บปวด
คุณทำให้ คุณทำให้ฉันกลายเป็นผู้ศรัทธา ผู้ศรัทธา
ความเจ็บปวด
คุณทำให้ฉันแหลกสลาย แล้วสร้างฉันขึ้นมาใหม่ ผู้ศรัทธา ผู้ศรัทธา
ความเจ็บปวด
ฉันคนท้าใหญ่โอ้ปล่อยให้พวกเขาฝน
โชคชะตา ความรัก และพระเจ้าของฉันล้วนมาจาก
ความเจ็บปวด